Lipsology & Lip Prints & Lipstick Fortune Telling Card
#ศาสตร์แห่งจุมพิตพยากรณ์ #ร่องรอยบนรอยพิมพ์ปาก หรือ #ไพ่หมอดูลิปสติค ?"ศาสตร์แห่งจุมพิตพยากรณ์ " หรือ #Lipsology หรือ Lipstick Fortune Telling หมายถึง พยากรณ์ศาสตร์แขนงหนึ่งที่อาศัยรูปทรง ขนาด สี เส้น ช่องว่าง มุม และ รอยตำหนิ ที่ปรากฎบนรอยประทับพิมพ์รูปปาก อธิบายบอกบุคลิกภาพ ระดับพลังงาน ความแข็งแรง เรื่องราวสุขภาพ อารมณ์ และเหตุการณ์ แนวโน้มปัญหาต่างๆที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตการทำงาน และความสัมพันธ์ในครอบครัวของบุคคลๆหนึ่งได้ ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ปรากฎรอบพิมพ์นั้นชัดเจนไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีรากฐานจากอาชญวิทยา สถิติการจำแนกหลักฐานทางพยาธิและอื่นๆ เพื่อการคลี่คลายคดีอาชญากรรมในอดีตที่ผ่านมา ที่เป็นที่รู้จักกันในหลักสูตรของ #Cheiloscopy*เป็นที่ตั้ง
Lip Prints and Crime
#รอยเส้นบนริมฝีปากกับเรื่องของอาชญากรรม
ในอดีตของ Edmond Locard นักอาชญวิทยาชาวฝรั่งเศสจากภาพยนตร์ทีวีเรื่อง Sherlock Holmes ฉบับฝรั่งเศส Locard เป็นนักศึกษานายแพทย์ และนักศึกษากฎหมายในเวลาเดียวกัน เขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแกะรอยพิสูจน์หลักฐานที่มีเรื่องราวของฉากฆาตกรรมซ่อนอยู่เบื้องหลัง
เรื่องราวการทำงานในห้องแลปของ Locard ที่ Lyon ใน ปีคศ. 1910 ได้ถูกนำมาถกกันในวงกว้าง อันเป็นเรื่องราวของทุกๆร่องรอยการสัมผัสที่ถูกทิ้งไว้ ที่เขาสามารถนำพาเรามาถึงการไขคลี่คลายคดีสืบสวนได้ด้วยสมองอันมีอัจฉริยภาพ และที่สำคัญที่สุด ก็คือหลักฐานความจริงที่ไม่เคยหลอกคนอย่างเขาได้ อันได้แก่ รอยนิ้วมือ รอยเท้า เส้นด้าย เส้นผม ต่างๆอันรวมความไปถึงเรื่องที่จะพูดถึงในบทความนี้ นั่นก็คือ “ร่องรอยบนรอยพิมพ์ปาก”
ในปี 1950 สองนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ป่น-อินเดีย Yasuo Suchihashi และ Kazuo Suzuki ผู้สืบสานแนวคิดของ Locard ได้ทำการทดสอบกับคน 1364 คนที่มหาวิทยาลัยโตเกียว จากปี 1968- 1971 พวกเขาได้ประกาศถึงการเรียงตัวของเส้นต่างๆบนพื้นที่สีแดงของริมฝากมนุษย์แต่ละคนว่าเป็นเอกเทศอิสระต่อกันและยังมีความเป็นเอกลักษณ์ การศึกษาเรื่องรอยเส้นบนริมฝีปาก แขนงนี้ถูกเน้นไปที่รอยยับย่น ร่องต่างบนริมฝีปากที่ต้องใช้กล้องกำลังสูงส่อง และจากรอยพิมพ์รูปปากที่ต้องมีคุณภาพ ซึ่งศาสตร์แขนงนี้ ถูกเรียกภายหลังว่า #Cheiloscopy
การศึกษาถึงธรรมชาติ และคุณภาพของรอยพิมพ์เพื่อการค้นหาตัวบุคคล เจ้าของโดยการแยกแยะทางกายภาพ ในอดีต(ซึ่งปัจจุบันใช้หลักการของการจำแนก DNA แทน) แต่ไม่ได้เน้นถึงการพยากรณ์ ทายนิสัย ของบุคคลกลุ่มที่ถูแบ่งจำแนกนั้นๆ แต่โดยแก่นแท้หลักการแยกแยะดังกล่าวในอดีตก็มีที่มาในหลักการเดียวกันกับการจำแนกบุคลิกภาพ และอารมณ์ของบุคคล อาจแตกต่างกันในรายละเอียดย่อยไม่มากนักในวิธีการจำแนกกลุ่มใกล้เคียง และด้วยการใช้สถิติแต่ดั้งเดิมก็เป็นหลักการใหญ่ของพื้นฐาน ”ศาสตร์แห่งจุมพิตพยากรณ์” ในปัจจุบัน ที่กำลังกล่าวถึงด้วย
ณ.เวลานี้ รอยพิมพ์ปากจึงไม่ได้มีเพียงเรื่องราวที่ถูกจำกัดอยู่ เพียงแค่การติดตามหาผู้ก่อคดี. หรือเหยื่อในคดีเท่านั้น เมื่อการจำแนกด้วยสถิติ และคอมพิวเตอร์ ในโลกปัจจุบันมันได้เข้ามามีบทบาทอย่างเต็มที่กับการคลี่คลายบริบทอื่นๆในสังคม ความเป็นอยู่ เส้นทางก้าวเดินต่อๆไปของรอยพิมพ์ปากจึงมีสิ่งน่าใจอีกมากมาย และโดยเฉพาะกับประโยชน์ที่จะได้รับจาก "#ศาสตร์แห่งจุมพิตพยากรณ์" หรือ "#หมอดูลิปสติค"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น